บทพากย์เอราวัณ
ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็กพระพุทธเลิศหน้านภาลัย
พระนามเดิม คือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิสรสุนทร “ฉิม”
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
๑. สำหรับแสดงโขน
๒.ให้เห็นถึงโทษของการหลงใน รูป รส กลิ่น เสียง
ลักษณะการแต่ง
กาพย์ฉบัง ๑๖
ลักษณะคำประพันธ์
- ๑ บทมี ๓ วรรค แบ่งเป็นวรรคแรก ๖ คำ วรรคสอง ๔ คำและวรรคสาม ๖ คำ
- ใน ๑ บท มีสัมผัสบังคับ ๑ แห่ง คือ
คำสุดท้ายของวรรคแรกสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคสอง
- มีสัมผัสระหว่างบทอยู่ที่คำสุดท้ายของบทแรกกับคำสุดท้ายของวรรคแรกของบทต่อไป
เนื้อเรื่องย่อ
อินทรชิตลูกของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เดิมชื่อรณพักตร์ เรียนวิชาศิลปศาสตร์ ณ สำนักฤาษีโคบุตร ภายหลังเรียนมนต์ชื่อมหากาลอัคคี สำหรับบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสามแล้ว ก็ไปนั่งภาวนาอยู่จนครบ ๗ ปี พระเป็นเจ้าเสด็จมาพร้อมกันทั้งสามองค์
พระอิศวร ประทานศรพรหมาสตร์ และบอกเวทแปลงตัวเป็นพระอินทร์
พระพรหม ประทาน
ศรนาคบาศ และให้พรเมื่อตายบนอากาศ
ถ้าหัวขาดตกลงพื้นดินให้กลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์
ต่อเมื่อได้พานทิพย์ของพระพรหมมารองรับ จึงจะไม่ไหม้
พระนารายณ์ ประทานศรวิษณุปาณัม
ครั้งหนึ่งทศกัณฐ์ให้รณพักตร์ไปปราบพระอินทร์ เมื่อรบชนะพระอินทร์ ทศกัณฐ์จึงให้ชื่อใหม่ว่า อินทรชิต แปลว่า มีชัยชนะแก่พระอินทร์
เมื่อ
ศึกติดลงกา อินทรชิตทำพิธีชุบศรพรหมาสตร์ แต่ไม่สำเร็จ
เพราะทศกัณฐ์บอกข่าวการตายของกุมภกรรณ
อินทรชิตจึงออกรบโดยแปลงกายเป็นพระอินทร์
และให้การุณราชแปลงเป็นช้างเอราวัณอันงดงามเมื่อทัพพระลักษณ์เห็นก็เคลิบ
เคลิ้มหลงกล อินทรชิตจึงแผลงศรนาคบาศถูกตัวพระลักษณ์และทัพวานร
จำลองเหตุการณ์แบบง่ายๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น